มหานครแคนธา จักวรรดิแห่งมังกร

ก่อนที่จะเข้าเนื้อหาของบทความในตอนนี้ มาอ่านเป็นเกร็ดความรู้เล็กๆ เรื่องปฏิทินไทม์ไลน์ในเกม ที่ได้กล่าวถึงในตอนที่แล้วซักหน่อย

Mouvelian calendar

ปฏิทินโมเวเลียน (ตั้งชื่อตามท่านแพทริอาร์ช โมเวล มหาปุโรหิตคนแรกของวิหารแห่งดเวย์นา) เริ่มนับศักราชตั้งแต่ช่วงเวลาที่เหล่าทวยเทพได้ออกจากทีเรีย หรือที่รู้จักกันดีก็คือการอพยพของพระเจ้า (Exodus of Gods)
ส่วนปีก่อนที่จะนับศักราชจะใช้ตัวย่อ BE (Before the Exodus) หลังจากเริ่มนับศักราชจะใช้เป็น AE (After the Exodus)
ในปฏิทินโมเวเลียนนั้นแบ่งออกเป็น 4 ฤดู และ 1ปี มี365วัน โดยแบ่งได้ดังนี้

ฤดูแห่งเซฟเฟอร์ (Season of the Zephyr)  ฤดูใบไม้ผลิ  วันที่ 1-90  ธาตุประจำฤดู  ลม
ฤดูแห่งฟินิกส์ (Season of the Phoenix) ฤดูร้อน  วันที่ 91-180  ธาตุประจำฤดู  ไฟ
ฤดูแห่งไซออน (Season of the Scion) ฤดูใบไม้ร่วง  วันที่  181-270  ธาตุประจำฤดู  น้ำ
ฤดูแห่งโคลอสซัส (Season of the Colossus) ฤดูหนาว  วันที่  271-365  ธาตุประจำฤดู  ดิน

*รู้ไว้ไม่เสียหลาย : ถ้าเปรียบเทียบปฏิทินโมเวเลียนในเกมกับปฏิทินจริงบนโลก จากข้อมูลของทีมงานArenaNet ในวันที่ปัจจุบัน (วันที่ลงบทความ 15 กรกฏาคม 2018) จะเท่ากับ วันที่ 15 Scion ปี 1331 AE

แผนที่ของ Cantha พบใน Durmand Priory Special Collections

แคนธา (Cantha)

แคนธา หรือที่รู้จักกันในนาม จักวรรดิแห่งมังกร (Empire of the Dragon) เป็นมหานครที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของทีเรีย ตั้งอยู่ระหว่างทะเลแคลชชิ่ง(Clashing Sea) ในมหาสมุทรไม่รู้จบ(Unending Ocean)
เป็นที่รู้กันว่ามหานครแคนธาแห่งนี้เป็นประเทศและดินแดนที่เก่าแก่ที่สุดของมนุษย์
แต่ในประวัตติศาสตร์นั้น บนดินแดนของแคนธาเป็นที่อยู่อาศัยของเผ่าพันธ์ เทนกุ(Tengu),นากา(Naga) และเผ่าพันธ์อื่นๆด้วย ไม่ได้มีเพียงแค่มนุษย์
แคนธานั้นเป็นประเทศเรียกได้ว่าเกลียดและกลัวชาวต่างชาติและได้ปลีกตัวออกจากประเทศอื่นๆ ปกครองโดยจักรพรรดิอุโซคุ(Emperor Usoku) และกระทรวงแห่งการชำระร้าง (Ministry of Purity) กระทรวงนี้ตั้งขึ้นมาเพื่อป้องกันภัยพิบัติจากโรคระบาด และภัยพิบัติจากบุคลหนึ่ง "ชิโระ ทากาจิ"(Shiro tagachi นักฆ่าในตำนาน 1ในStanceของคลาส Revenant)
แม้จะปลีกตัวออกจากประเทศอื่นๆ แต่ก็มีการติดต่อกับประเทศภายนอกบ้างนิดหน่อย โดยรู้แค่เพียงว่ามีการค้าทางเรือกับประเทศไครทา(Kryta)
หลังจากการตื่นขึ้นของเอลเดอร์ดราก้อน ไซแทน(Zhaitan) ทางไครทาก็ได้ขาดการติดต่อกับแคนธาไป
ข่าวล่าสุดที่เกี่ยวกับมหานครแห่งนี้ได้มาจากเผ่าเทนกุคนหนึ่งที่หนีจากการโจมตีจากกองกำลัง Risen ของ อาร์มาดา เพื่อไปยัง Dominion of Winds
ในยุคใหม่นั้น นครแห่งนี้เป็นเหมือนเพียงตำนาน หลักฐานการมีอยู่ของแคนธานั้นมาจากเรื่องเล่าต่างๆของพวกกะลาสีที่อยู่ทางชายฝั่งทานิช(Tarnished Coast)

ประวัติศาสตร์ของแคนธา 

การกำเนิดของจักวรรดิ 756 BE-459 BE

ประวัติที่เก่าแก่ที่สุดที่ได้รับการบันทึกไว้ของแคนธาคือประมาณปีที่ 756 BE เป็นการมาถึงของมนุษย์ครั้งแรกบริเวณชายฝั่งทางเหนือของทวีป
ในปี 510 BE ชาวแคนธา(ในขณะนั้นยังเป็นแค่ชนเผ่าต่างๆอยู่) ได้ถูกรวมให้เป็นหนึ่งโดยการนำของ ไคเนิง ธา (Kaineng Tah) และได้ก่อตั้งจักรวรรดิแห่งมังกรขึ้น และไคเน็งก็ขึ้นเป็นจักรพรรดิ
แต่หลังจากนั้น 46 ปี จักรพรรดิไคเนิงก็ได้สวรรคตลงอย่างปริศนา และผู้ที่รับช่วงต่อการปกครองคือพระราชบุตรของจักรพรรดิไคเน็ง Yian Zho ผู้เหี้ยมโหด

ภายใต้รัชสมัยของ Yian Zho ชนเผ่าลักซอน(Luxon) และ เคอซิค(Kurzick) ได้แยกตัวออกจากจักรวรรดิแล้วแบ่งออกเป็นสองประเทศ เพื่อจะได้จัดตั้งกองกำลังทหารเป็นของตนเองและมีอำนาจส่งกำลังทางการทหารให้กับรัฐแคนธาของพระจักรพรรดิ ในเหตุการณ์ครั้งนี้ก็ค่อยๆเกิดความเกลียดชังกันระหว่างลักซอนและเคอซิคยาวนานกว่าพันปี
หลังจากรัชสมัยของ Yian Zho แคนธาที่อยู่ในทางใต้ยังคงปลีกตัวออกจากประเทศอื่นๆ แต่ก็มีการติดต่อค้าขายระหว่างทวีปทางเหนืออยู่บ้างในปี 221 AE เพราะประชากรที่เพิ่มขึ้นและทรัพยากรไม่เพียงพอต่อความต้องการ

ยุคสมัยแห่งมังกร 872 AE-1080 AE

เหตุการณ์ Jade Wind ใน Cinematic การหักหลังของชิโระ ดูได้ที่นี่

ในปี 872 AE จักพรรดิของแคนธาคนที่ 26 Angsiyan ถูกสังหารโดยองครักษ์ที่เขาไว้ใจ ชิโระ ทากาจิ(Shiro Tagachi) ที่ถูกหมอดูหลอกทำนายว่าเขาจะตายด้วยน้ำมือขององค์จักรพรรดิ หลังจากชิโระสังหารจักพรรดิ เขาได้ใช้พิธีกรรมมืด สูบหลังชีวิตและเวทมนต์จากตัวจักรพรรดิ หลังจากนั้นไม่นานเขาถูกปราบลงโดยนายกองผู้เก่งกาจสามคน Vizu, Saint Viktor และ Archemorus

ก่อนที่ชิโระจะตาย เขาได้ปลดปล่อยพลังเวทมนต์ที่สูบมาทั้งหมด แรงจากการปลดปล่อยพลังเวทมนต์นั้นทำทุกชีวิตทุกสิ่งในพื้นที่นั้นกลายเป็นหิน ทำให้ทะเลหยก(Jade Sea) กลายเป็นหยกไปจริงๆ เหตุการณ์นี้เป็นที่รู้จักในชื่อ Jade Wind. (เสริม : เป็นสกิล EliteของStance Shiro คลาส Revenant ที่จะปล่อยพลังแห่งสายลมแล้วสตั้นรอบๆ)

นักฆ่าในตำนาน Shiro Tagachi

สองร้อยปีต่อมา วิญญาณของชิโระได้กลายเป็นผู้นำทางของวิญญาณ เขากลับมาเพื่อเสาะหาวิธีการที่จะได้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง เขาได้ออกเสาะหาวิธีทั่วแคนธา แต่เมื่อเขาโผล่ไปที่ไหนก็มีแต่ความหายนะ โรคระบาดร้ายแรง ทำให้สิ่งมีชิวิตบ้าคลั่ง และด้วยความที่เขาได้กลายเป็นผู้นำทางของวิญญาณ เขาได้บังคับวิญญาณพวกนั้นให้กลายเป็นผู้รับใช้แห่งชิโระ (Shiro'ken) 

แต่แล้วชิโระก็ถูกปราบลงอีกครั้งโดยทหารของแคนธา ทหารของเคอซิคและลักซอน รวมถึงมังกร คูนาวัง(Dragon Kuunavang) แม้เขาจะถูกปราบลง แต่แผนการที่จะกลับไปมีชีวิตอีกครั้งของชิโระได้สำเร็จไปก่อนที่เขาจะถูกปราบแล้ว โดยเขาได้สังหารเจ้าอาวาส โทโก(Master Togo) พี่น้องต่างมารดาของจักพรรดิองค์ที่ 31 คิสุ (Emperor Kisu) และใช้เลือดของโทโกในพิธีกรรมคืนชีพ

หลังถูกปราบลงครั้งที่สอง วิญญาณของชิโระกลายเป็นรูปปั้นหยก เหลือแต่เพียงดวงจิต และดวงจิตนั้นก็ถูกส่งไปลงโทษที่แดนแห่งความทุกข์ระทม (Realm of Torment สถานที่เดียวกับที่คุมขังเทพอแบดดอน)

วิญญาณรับใช้ของชิโระ Shiro'Ken

หลังเกิดเหตุการณ์ในครั้งนี้ ก็ได้มีการจัดตั้งกระทรวงแห่งการชำระล้างขึ้นมา(Ministry of Purity) เพื่อจัดการกับโรคระบาด อาชญากรรม รวมไปถึงความขัดแย้งและสงครามต่างๆในแคนธาด้วย ผู้นำในตอนนั้นคือ รัฐมนตรี มุราคามิ เรย์โกะ (Minister Reiko Murakami อดีตสมาชิกอง Ministry of Flame ที่เธอรู้สึกไม่พอใจในระบบต่างๆในกระทรวง จึงออกไปจัดตั้งกระทรวงใหม่ซึ่งก็คือ Ministry of Purity ขึ้น)

แต่เธอก็ถูกครอบงำโดยพลังอำนาจและถูกสังหารลง แม้ว่าจะเป็นอย่างนั้น ทางกระทรวงแห่งการชำระล้างก็ยังคงคอยช่วยเหลือและนำทางผู้คนไปสู่ชีวิตที่มีแต่ความสงบสุข กระทรวงนี้มีส่วนทำให้เกิดความเป็นชาตินิยมในแคนธาเพิ่มมากขึ้น และเริ่มกีดกันผู้คนจากชาติอื่นๆออกไป และในปี 1127 AE การขึ้นครองราชต่อจากจักรพรรดิคิสุ จักรพรรดิอุโซคุ ได้ลงทุนหลายล้านเหรียญทอง จัดตั้งกองกำลังของแคนธาขึ้นมาเอง และจัดการสงบศึกระหว่างลักซอนและเคอซิค แล้วรวมทั้งหมดให้กลายเป็นจักรวรรดิที่ยิ่งใหญ่อีกครั้ง

จักรพรรดิ Usoku

หลังที่จักรพรรดิทำการรวมแผ่นดินให้กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งได้ เขาก็ได้ทำการขับไล่ชนเผ่าอื่นๆ ที่ไม่ใช่มนุษย์ออกไปอยู่ตามชายแดนของแคนธาและปิดประเทศ ไม่ติดต่อกับประเทศภายนอก ด้วยความกดขี่ข่มเหงที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆต่อชนเผ่าอื่นๆที่ไม่ใช่มนุษย์ในแคนธา พวกเผ่าพันธ์อื่นๆจึงลี้ภัยมายังอีโลนาและทีเรีย

การติดต่อครั้งสุดท้าย 1219 AE-ปัจจุบัน

เมื่อเอลเดอดราก้อน ไซแทน ตื่นขึ้น แล้วทำให้ Orr กลายเป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยผีดิบ Risen แล้วกระจายกองกำลังเรือผีดิบไปทั่วทะเล ไม่ว่าเรือลำไหนที่แล้วเฉียดไปใกล้ทะเลแถบ Orr ต่างจมลงสู่ก้นทะเล ทำให้ แคนธาทำการปิดประเทศอย่างสมบูรณ์ ไม่มีการติดต่อกับโลกภายนอกอีกต่อไป พวกผู้ลี้ภัยจากแคนธา รวมทั้งกิล Xunlai (กิลด์เก่าแก่ที่มีอิทธิพลมากกิลด์หนึ่งในทีเรีย แต่อิทธิพลของกิลด์ก็ลดลงไปหลังจากที่ขาดการติดต่อกับแคนธา ปัจจุบันกิลด์นี้ให้บริการฝากของกับผู้เล่นในเกม)

จะมีแต่เพียงเรื่องเล่าต่างๆของพวกกะลาสีที่อยู่ทางชายฝั่งทานิช 

จากข้อมูลที่ได้รับการยืนยันล่าสุดคือ สภาผู้บริหารของภาคีแห่งการประเมินภัยคุกคาม ได้พบกับแท่นบูชาแห่งความลับ (Chantry of Secrets) มีลูกโลกขนาดใหญ่ ที่แสดงให้เห็นถึงแผนที่ทั้งหมดในโลกทีเรีย โดยแสดงให้เห็นว่านครแคนธาแตกต่างและเปลี่ยนไปจาก 250 ปี ก่อน

Chantry of Secrets

จนถึงปัจจุบันยังไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างกับแคนธา ใครเป็นจักรพรรดิองค์ปัจจุบัน มีเพียงข่าวลือว่าพวก เซฟีไรทส์ (Zephyrites องค์กรของมนุษย์ที่มีทั้งชาวแคนธาและชาวอีโลเนียนอยู่ อาศัยอยู่บนเรือเหาะขนาดใหญ่บริเวณ  Zephyr Sanctum ในแผนที่ Drytop ในเกม) พยายามหาทางติดต่อและทำการค้ากับพวกชาวเมืองแคนธาอยู่

Zephyr Sanctum

*เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย 

-แคนธา ในรับแรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากวัฒนธรรมของชาวเอเชียตะวันออก (จีน เกาหลี ญี่ปุ่น มองโกล)

-ชื่อจักพรรดิ ไคเนิง อาจจะได้แรงบัลดาลใจมาจากเมือง ไคเฟิง kaifeng หนึ่งในเมืองที่เก่าแก่ในประเทศจีน

-ครั้งหนึ่ง ในการออกแบบเมือง Divinity's Reach เคยมีการออกแบบเขตของชาวแคนธาไว้ด้วย (อารมณ์ประมาณไชน่าทาวน์) ซึ่งภายหลังถูกแทนที่ด้วยเขต the Great Collapse ที่อยู่ทางซ้ายของเมือง

-ในการปิดประเทศของแคนธาโดยจักรพรรดิอุโซคุ มีความคล้ายคลึงกับเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น ในประมาณปี ค.ศ. 1600 ที่โตกุงาวะ อิเอยาสึ ได้รวบรวมกองกำลังไปที่บาคุฟุ และขับไล่ชาวต่างชาติออกไป